Switch Keyboard 3 ประเภท มีอะไรบ้าง?

Switch Keyboard 3 ประเภท มีอะไรบ้าง?

Switch Keyboard เป็นชิ้นส่วนสำคัญของ Keyboard Mechanical หน้าที่ของมัน คือ เมื่อเรากดปุ่ม สวิตช์จะส่งสัญญานไฟฟ้าไปที่คอมพิวเตอร์ของเรา

ถ้าพูดถึง Switch Keyboard  หลายท่านจะจดจำในชื่อของสีสวิตช์  เช่น Blue Switch, Brown Switch, Red Switch แต่ความเป็นจริงแล้วขึ้นอยู่กับระบบกลไกภายในสวิตช์คีย์บอร์ด สีเป็นเพียงชื่อเรียกของค่ายแบรนด์ที่ผลิตออกมา เพราะฉะนั้น Blue Switch บางค่ายอาจจะเป็น Clicky บางค่ายอาจจะเป็น Tactile ขึ้นอยู่กับกลไกภายใน เพียงแต่ใช้ชื่อ Blue Switch เหมือนกัน เราจึงอยากให้เพื่อนๆจดจำที่่กลไกการทำงานของมันนั่นเอง

เช่น

  • Blue Switch ค่าย Cherry Mx เป็น Clicky
  • Blue Switch ค่าย Akko เป็น Tactile

    สวิตช์คีย์บอร์ดแต่ละชนิด จะมีชื่อเรียกรุุ่นย่อยต่างกันไปตามแบรนด์ที่ผลิตออกมา เช่น Blue Switch ของค่าย Cherry Mx หรือ White Switch ของค่าย Kailh  ทั้ง 2 แบรนด์ นี้ถูกจัดอยู่ในประเภทของ Clicky Switch
    เช่นกัน

   Switch Keyboard  มีส่วนประกอบหลักๆ 4 ส่วนด้วยกัน (อ้างอิงค์จาก Switch ที่นิยมใช้ทั่วไป คือ MX Switch)
ส่วนประกอบ Switch Keyboard
ส่วนประกอบ Switch Keyboard
  • Stem
    คือส่วนบนสุดที่เชื่อมต่อกับ Keycaps รับแรงกดส่งต่อไปยังส่วนต่างๆของสวิตช์ และเป็นจำแนกประเภทของสวิตช์ด้วย โดยจะติดตั้งอยู่ภายใน Housing และสวมบนหัว Spring
  • Spring
    คือสปริงภายในสวิตช์ช่วยพยุง Stem และทำให้มีแรงต้านขึ้ง-ลง ตอบสนองแรงกดของเรา  แรงต้านจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประเภทของสปริงที่เลือกใช้
  • Bottom & Housing
    เป็น Body ที่รองรับแรงกดจาก Stem และ สปริง ทำให้กดเสียงจากการกระทบกันขึ้นมา ส่วนนี้เราสามารถปรับแต่งเพิ่มเติมเพื่อให้เสียงการกดมีความไพเราะมากยิ่งขึ้น เช่น การ Lube หรือใส่ Film รองกระแทกที่ Housing
  • Metal Leave
    เป็นแผ่นเหล็กติดตั้งกับ Housing ทำงานสัมพันธ์กับ Stem เมื่อมีการกดปุ่ม จะทำให้เกิดสัญญานไฟฟ้าที่ PCB ส่งต่อไปคอมพิวเตอร์
   ปัจจุบัน Switch Keyboard ถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นอย่างมากเพื่อรองรับ Mechanical Keyboard ที่สามารถปรับแต่งเปลี่ยนสวิตช์ได้  โดยแบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก คือ

1.Clicky Switch

Clicky Switch
Clicky Switch

เป็นสวิตช์ที่มีแรงต้านสูง จังหวะการกดมี 2 จังหวะ ตัวสวิตซ์จะมีแกนสวิตซ์ขนาดใหญ่ ลงไปดีดกับก้านเหล็กในสวิตซ์ทำให้เกิดเสียง  เสียงที่เกิดขึ้น จะค่อนข้างดัง เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง บางท่านชื่นชอบการกดคีย์บอร์ดที่เสียงดัง ฟังแล้วรู้สึกมันมือ สนุก อยากพิมพ์บ่อยๆ
ตัวอย่าง: Clicky Switch

2.Tactile Switch

Tactile Switch
Tactile Switch

เป็นสวิตช์ที่แรงไม่คงที่ คือ จังหวะการกดมี 2 จังหวะ ช่วงแรกที่กดจะมีแรงต้านต่ำ เมื่อกดไปเกินครึ่งจะมีแรงต้านที่เพิ่มขึ้นมา ตัวสวิต์จะมีแกนขนาดเล็ก ลงไปดีดกับก้านเหล็กในสวิตซ์ทำให้เกิดเสียง แต่จะเป็นเสียงที่เบากว่า Clicky  ช่วยให้เสียงรบกวนผู้อื่นลดน้อยลง แต่ยังให้ความรู้สึกสนุกดังเดิม
ตัวอย่าง: Tactile Switch

3.Linear Switch

Linear Switch
Linear Switch

เป็นสวิตช์ที่มีแรงต้านคงที่ มีลักษณะการทำงานลงไปเป็นเส้นตรงๆ เหมือนชื่อ Linear ตัวสวิตซ์ไม่มีแกนตรงกลางไปดีดกับเหล็ก จึงทำให้มีเสียงการกดที่เบากว่าสวิตซ์ ประเภทจังหวะกดมีเพียงครั้งเดียว ให้ความรู้สึกตอนกดที่สมูท ลื่นไหล และเสียงเงียบสงบไม่รบกวนผู้อื่น
ตัวอย่าง: Linear Switch

  • WS Quartz Linear Box Switch : คลิก
  • Cherry MX RGB Red Switches : คลิก

     แล้วสวิตช์ ประเภทเดียวกัน จากค่ายเดียวกัน แต่คนละสีต่างกันยังไง?

    ข้อแตกต่างของมันคือ สปริง ภายในสวิตช์ ที่ทำให้แรงต้านของสวิตซ์มีไม่เท่ากัน เมื่อเรากดก็จะมีความเด้งและแรงต้านแตกต่างกันนั่นเอง

    ขอบคุณรูปภาพจาก : Input Club



เป็นมือใหม่ไม่เข้าใจคำศัพท์วงการคีย์บอร์ด ศึกษาได้ที่: พจนานุกรม คำศัพท์วงการ Mechanical Keyboard 
ขนาดของคีย์บอร์ดดียังไง ส่งผลอะไรบ้าง? อ่านได้ที่ : ขนาดของคีย์บอร์ดแตกต่างกันยังไง?
Custom Keyboard คืออะไร? มือใหม่ต้องอ่าน : Custom Keyboard คืออะไร?
คีย์บอร์ดธรรมดา ต่างกับ Mechanical ยังไง? อ่านได้ที่: Membraine VS Mechanicl ต่างกันยังไง?
ติดตามบทความสนุกๆเกี่ยวกับ Keyboard และเกมมิ่งเกียร์ดีๆที่: Freshz.com
ติดตามรีวิว Gadget และ Gaming Gear ดีๆได้ที่ Youtube : FreshZ

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img