วิธีใช้งาน QMK VIA สำหรับตั้งค่าคัสตอมคีย์บอร์ด

โปรแกรม QMK VIA คืออะไร

สิ่งที่อยู่คู่คนเล่นคัสตอมคีย์บอร์ดนอกจากบรรดาอะไหล่ชิ้นส่วนทางกายภาพอย่าง สวิตช์ เพลท เคส คีย์แคป ฯลฯ ก็คือซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมปรับแต่งที่อนุญาตให้เราตั้งค่าปุ่ม (Keymapping), ตั้งมาโคร (Macro), เปลี่ยนสีไฟ RGB หรือบางรุ่นที่มีจอก็จะมีให้ใส่ภาพ GIF ดุ๊กดิ๊ก มี Knob ก็ตั้งค่า Knob ได้ เป็นต้น ซึ่งคีย์บอร์ดหลายรุ่นก็มักมาพร้อมโปรแกรมที่แบรนด์พัฒนาขึ้นเอง แต่ก็มีหลายรุ่น (เช่นคีย์บอร์ดของ Keychron) ที่ระบุข้างกล่องว่ารองรับ QMK VIA ซึ่งทั้งคู่เป็นโปรแกรม Open source ที่เปิดให้ทุกคนนำไปแก้ไขดัดแปลง ต่อยอดโค้ดเองได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องลิขสิทธิ์


QMK VIA ต่างกันยังไง

QMK และ VIA เป็นโปรแกรมที่ใช้ตั้งค่าคัสตอมคีย์บอร์ดทั้งคู่แต่ VIA จะใช้ง่ายกว่าสามารถตั้งค่าผ่านเว็บไซต์ได้เลย ซึ่งฟีเจอร์หลัก ๆ จะเป็นการตั้งค่าปุ่ม การตั้งมาโคร และตั้งค่าพวกไฟ RGB ส่วน QMK จะยืดหยุ่นกว่า แต่จำเป็นต้องมีทักษะด้านการเขียนโปรแกรมถึงจะใช้งานโปรแกรมนี้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ถามว่าถ้าเขียนโค้ดไม่เป็นใช้งาน QMK ได้ไหมก็ตอบเลยว่าได้ แต่ฟีเจอร์พื้นฐานของมันก็ไม่ค่อยต่างจาก VIA ฉะนั้น ถ้าไม่ได้มีพื้นฐานด้านโค้ดดิ้งผู้เขียนแนะนำให้ใช้ VIA ไปเลยดีกว่า (หากคีย์บอร์ดรองรับ) โดยความแตกต่างอีกอย่างของทั้ง 2 โปรแกรมคือการใช้ VIA จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเฟิร์มแวร์ของคีย์บอร์ดโดยตรง แต่ QMK จะเป็นการเขียนเฟิร์มแวร์ใหม่เข้าไปทับไฟล์เก่าเลย จึงต้องใช้งานอย่างระมัดระวังไม่งั้นอาจทำให้คีย์บอร์ดเสียหายได้ ทั้งนี้ QMK รองรับการติดตั้งผ่านทั้ง Windows และ MacOS


วิธีการตั้งค่าคีย์บอร์ดด้วย VIA

QMK VIA

1.) เชื่อมต่อคีย์บอร์ดกับคอมพิวเตอร์ และเข้าไปที่เว็บไซต์ https://usevia.app

2.) คลิก Authorize device ถ้าคีย์บอร์ดรุ่นที่เราใช้งานอยู่ถูกอัปเดตชื่ออยู่บนฐานข้อมูลของ VIA แล้ว ก็จะขึ้นชื่อรุ่นให้กด Connect และสามารถข้ามขั้นตอนทั้งหมดไปตั้งค่าคีย์บอร์ดได้เลย แต่ถ้าไม่ขึ้นชื่อรุ่นก็ให้ทำตามขั้นตอนถัดไป

3.) เข้าไปที่เว็บไซต์ของแบรนด์คีย์บอร์ดรุ่นที่เราใช้ และดาวน์โหลดไฟล์ JSON ของคีย์บอร์ดรุ่นนั้นมา โดยมักจะอยู่ในหน้า Download, Software หรือ Driver แต่หากหาไม่เจอให้สอบถามไปที่แบรนด์โดยตรง ในตัวอย่างคือหน้าเว็บของแบรนด์ LOGA ซึ่งจะมีแจกไฟล์ VIA JSON ของรุ่น Yaksa 65AL Vanilla ไว้ตามภาพ

4.) เมื่อได้ไฟล์มาแล้วให้คลิกที่แท็บ Settings รูปฟันเฟืองด้านบน และคลิกเปิดฟีเจอร์ Show Design Tab

5.) คลิกที่แท็บ Design รูปแปรงสีด้านบน จากนั้นคลิกปุ่ม Load แล้วเลือกไฟล์ JSON ที่ดาวน์โหลดมาเมื่อขั้นตอนก่อนหน้า หรือลากไฟล์ไปวางในเส้นประได้เลย (หาก Error ให้ลองคลิกเปิดฟีเจอร์ Use V2 definitions (deprecated) แล้วกด Load ใหม่อีกครั้ง)

6.) จากนั้นจะมีหน้าต่างเด้งขึ้นมามุมซ้ายบน ให้คลิกเลือกรุ่นคีย์บอร์ด แล้วคลิก Connect จากนั้นไปที่แท็บ Configure เพื่อตั้งค่าคีย์บอร์ดได้เลย


VIA มีฟีเจอร์การตั้งค่าพื้นฐานอะไรบ้าง

  • ตั้งค่าปุ่ม (Keymapping) ซึ่งตั้งได้ค่อนข้างละเอียดตั้งแต่สลับปุ่มเดิมเป็นปุ่มอื่น เช่น เปลี่ยนปุ่ม A เป็นปุ่ม B หรือใส่คำสั่งพิเศษ เช่น เปลี่ยนปุ่มเดิม ๆ ให้เป็นปุ่มเพิ่มลดแสงไฟ RGB เป็นปุ่มเล่นหยุดเพลง ฯลฯ
  • สามารถตั้งปุ่มได้ 4 เลเยอร์แบ่งเป็นสำหรับ Windows 2 เลเยอร์และ MacOS 2 เลเยอร์ โดยเลเยอร์แรกหมายถึงปุ่มปกติทั่วไป ส่วนเลเยอร์สองคือปุ่มที่ต้องใช้คู่กับปุ่ม Fn นั่นเอง
  • ตั้งมาโคร
  • เปลี่ยนโหมดไฟ
  • ทดสอบการทำงานของปุ่ม

วิธีการตั้งค่าคีย์บอร์ดด้วย QMK

หากการใช้งาน VIA ยังไม่ถึงใจก็อยากแนะนำให้รู้จักกับ QMK (Quantum Mechanical Keyboard) ซึ่งซับซ้อนกว่าแต่ตั้งค่าได้อิสระกว่า จำเป็นต้องมีทักษะด้านการเขียนโค้ดพอสมควร โดยโปรแกรมที่เราต้องไปข้องเกี่ยวมีอยู่ 2 ตัวคือ QMK Configurator ซึ่งเป็นโปรแกรมใช้งานผ่านเว็บไซต์สำหรับใช้ตั้งค่าคล้ายกับ VIA แต่หน้าตาดูเนิร์ดใช้งานยากกว่า (เราสามารถดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์จากที่นี่ไปดัดแปลงด้วยการเขียนโค้ดเพิ่มเข้าไปเองก็ได้) และโปรแกรม QMK Toolbox ที่เราต้องใช้มันในการติดตั้งเฟิร์มแวร์ใหม่ลงไปบนคีย์บอร์ด


วิธีการใช้งาน QMK Configurator

1.) เชื่อมต่อคีย์บอร์ดกับคอมพิวเตอร์ และเข้าไปที่เว็บไซต์ https://config.qmk.fm

2.) เลือกรุ่นคีย์บอร์ด และเลย์เอาท์ให้ถูกต้องตามรุ่น (คีย์บอร์ดในไทยส่วนใหญ่ใช้ ANSI) จากนั้นตั้งชื่อไฟล์การตั้งค่าของเราเป็นชื่ออะไรก็ได้ในช่อง Keymap name

3.) เลื่อนลงไปด้านล่างก็จะเจอแท็บการตั้งค่า ซึ่งสามารถคลิกปุ่มที่ต้องการตั้งค่าที่เลย์เอาท์คีย์บอร์ดด้านบน จากนั้นก็ไปคลิกคำสั่งที่ต้องการด้านล่าง หรือลากคำสั่งจากเลย์เอาท์ด้านล่างมาวางทับที่เลย์เอาท์ด้านบนก็ได้ (ในรูปคือการลากคำสั่งเรียกเครื่องคิดเลข (Calc) ขึ้นไปวางแทนคำสั่งปิดเสียงเดิม (Mute) บน Knob มุมขวาบน)

4.) เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้วให้เลื่อนกลับขึ้นไปด้านบนและคลิกที่ไอค่อน Compile มุมขวาบน และรอประมวลผลสักครู่ (Baking) ระหว่างนี้อย่าเพิ่งไปคลิกตรงอื่นของหน้าจอเพราะโปรแกรมจะหยุดประมวลผลโดยไม่ตั้งใจได้

5.) จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Firmware มุมขวาล่างเพื่อดาวน์โหลดไฟล์เฟิร์มแวร์ที่จะนำไปติดตั้งลงคีย์บอร์ด โดยจะได้เป็นไฟล์ .bin หรือ .hex แล้วแต่รุ่น จากนั้นเก็บไฟล์ไว้ก่อนแล้วไปตั้งค่าต่อบนโปรแกรม QMK Toolbox


QMK มีฟีเจอร์การตั้งค่าพื้นฐานอะไรบ้าง

  • ตั้งค่าปุ่ม (Keymapping) มีทั้งปุ่มธรรมดา, ปุ่มเรียกแอปต่าง ๆ หรือจะเปลี่ยนปุ่มเป็นเมาส์ก็ได้
  • สามารถตั้งค่าเลเยอร์ปุ่มได้มากกว่า VIA ที่จำกัดอยู่ที่ 4 เลเยอร์เท่านั้น
  • เพิ่มปุ่ม F จาก F1 – F12 เป็น F1 – F24
  • ตั้งมาโคร
  • เปลี่ยนโหมดไฟ
  • ทดสอบการทำงานของปุ่ม
  • ฯลฯ

วิธีการใช้งาน QMK Toolbox

1.) เข้าไปที่เว็บไซต์ https://github.com/qmk/qmk_toolbox/releases

2.) ดาวน์โหลดโปรแกรมเวอร์ชั่นล่าสุด (Latest) ผู้ใช้ Windows ให้ดาวน์โหลดไฟล์ชื่อ qmk_toolbox_install.exe ส่วนผู้ใช้ MacOS ให้ดาวน์โหลดไฟล์ชื่อ QMK.Toolbox.pkg จากนั้นติดตั้งโปรแกรมให้เรียบร้อย

3.) สำหรับผู้ใช้ Windows ให้คลิกขวาที่หน้าโปรแกรมและคลิก Install Drivers ก่อน หรือคลิกที่เมนู Tools และเลือก Install Drivers (ผู้ใช้ MacOS ข้ามไปขั้นตอนถัดไปได้เลย)

4.) ที่เมนู Local file ให้คลิก Open เลือกไฟล์ .bin หรือ .hex ที่เราดาวน์โหลดมาเพื่อเริ่มติดตั้งเฟิร์มแวร์ ตรงนี้หากต้องการรีเซ็ตค่าดีฟอลคีย์บอร์ดสามารถกด Load ที่เมนู keyboard from qmk.fm ได้ด้วย

5.) ต่อมาให้เลือกรุ่น MCU (Microcontroller) ของคีย์บอร์ดที่เมนู MCU (AVR only) โดยสามารถตรวจสอบรุ่น MCU ได้จาก GitHub ของ QMK วิธีการก็คือให้หาโฟลเดอร์ยี่ห้อและรุ่นคีย์บอร์ดของเรา จากนั้นเปิดอ่านไฟล์ rules.mk ในนั้นจะมีบอกรุ่น MCU อยู่ แต่หากหาไม่เจอให้สอบถามข้อมูลจากทางแบรนด์ หรือสามารถดูรหัสรุ่นได้จากชิปบนแผง PCB โดยตรง

6.) ต่อมาให้เปิดโหมด bootloader หรือ DFU Mode ของคีย์บอร์ดเพื่ออนุญาตให้ติดตั้งเฟิร์มแวร์ใหม่ทับลงไปได้ แต่ละรุ่นจะมีวิธีเปิดเปิดใช้งานโหมดนี้แตกต่างกันให้ลองค้นหาวิธีของรุ่นนั้น ๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต เช่น Keychron จะมีปุ่มเข้าบูทโหมดเล็ก ๆ ซ่อนอยู่ใต้ Spacebar

7.) หลังจากเข้าบูทโหมดแล้วก็คลิก Flash เพื่อติดตั้งเฟิร์มแวร์และรอประมวลผลสักครู่ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img