5 หูฟังน่าใช้ ราคาไม่เกิน 3,000 บาท ปี2023

  5 หูฟังน่าใช้ ราคาไม่เกิน 3,000 บาท ปี2023

หูฟังคือ 1 ในอุปกรณ์ที่ช่วยส่งเสริมอรรถรสในการทำกิจกรรมต่างๆไม่ว่าจะเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ทำให้เข้าสู่โลกอันเป็นส่วนตัวของเรา ไม่รบกวนคนอื่น เกิดความเพลิดเพลิน และจะมันจะดียิ่งขึ้นไปอีกถ้าหากว่าหูฟังที่เราใช่มีฟังก์ชันพิเศษ เช่น Surround Sound 7.1 ระบบเสียงรอบทิศทาง

ระบบ Surround Sound 7.1 คืออะไร?

ขอบคุณรูปภาพจาก tip.thaiware
ขอบคุณรูปภาพจาก tip.thaiware
Surround Sound 7.1 ความสามารถของมันคือ สามารถรับ-ขับเสียงได้ ทั้งหมด 7 ทิศทาง และมี 1 ซับวูฟเฟอร์ด้วยกัน ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความสมจริง ทราบตำแหน่งและทิศทางได้อย่างละเอียดเสมือนว่าเราอยู่ในสถานการณ์นั้นจริงๆ จึงเป็นที่นิยมนำไปใช้ในการเล่นเกม FPS เพื่อให้สามารถทราบทิศทางการเคลื่อนไหว และเสียงเป็นได้อย่างแม่นยำเนั่นเอง
และหลังจากปี 2023 มีการเปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ๆขึ้นมามากมาย เพื่อนๆอาจมีคำถามขึ้นมาในใจว่ารุ่นเก่าๆยังมีตัวไหนน่าใช้ไหม ตกรุ่นหรือยัง มี 7.1 Surround Sound หรือเปล่า? ระหว่างรุ่นใหม่กับรุ่นเก่าตัวไหนน่าใช้กว่ากัน ?

โดยทีมงานคัดมาให้ในราคาไม่เกิน 3,000 บาท !!!

มีหูฟังน่าใช้รุ่นไหนบ้างมาดูกัน

หากใครไม่อยากอ่านเยอะ เราทำตารางเทียบสเปกและไฮไลท์ความแตกต่างของหูฟังแต่ละรุ่นมาให้คุณแล้ว

เปรียบเทียบหูฟัง 5 รุ่น
เปรียบเทียบหูฟัง 5 รุ่น

แต่หากใครอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติม แต่ละรุ่นมีจุดเด่นที่ส่วนไหน เหมาะกับใครใช้วัสดุอะไร ตัวไหนคุ้มที่สุดสามารถเลื่อนลงไปอ่านรายละเอียดแต่ละรุ่นได้เลย

1. Sony Inzone H3

Sony Inzone H3
Sony Inzone H3

หูฟังน่าใช้ตัวแรกที่จะกล่าวถึง เปิดตัวในปี 2022 พร้อมเทคโนโลยีระบบเสียงรอบทิศทาง 360 Spatial Sound  ช่วยให้ระบุตำแหน่งศัตรู จากเสียงฝีเท้า หรือการเคลื่อนไหวต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ มี Software รองรับ และยังมีระบบตัดเสียงรบกวน Dual Noise Sensor ที่อยู่ในหูฟังระดับท๊อป ได้รับใบรับรองจากทาง Discord ช่วยรับรองคุณภาพของไมโครโฟนในรุ่นนี้ด้วย ใครที่ต้องสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมบ่อยๆ รุ่นนี้อาจตอบโจทย์คุณแล้วหล่ะ สำหรับราคาในช่วงเปิดตัวอยู่ที่ 3,990 บาท

Spec: Sony Inzone H3

  • RGB: ไม่มี
  • การเชื่อมต่อ: Aux 3.5 mm, USB-DAC
  • ความยาวสายหูฟัง: 1.2 เมตร
  • Surround: 360 Spatial Sound
  • ขนาด Drivers: 40 มิลลิเมตร
  • อิมพีแดนซ์: 35 โอม
  • การตอบสนองความถี่หูฟัง: 10 hz – 20,000 Hz
  • วัสดุหุ้มก้านหูฟัง: หนังเทียม
  • น้ำหนัก(ไม่รวมสาย): 299 กรัม
  • Earpad Fabri: ไนลอน
  • Earpad Foam: ฟองน้ำธรรมดา
  • Mic: ถอดไม่ได้
  • การตอบสนองความถี่ไม่โครโฟน: 10 Hz- 8,000 Hz
  • ตัดเสียงรบกวน: มีระบบตัดเสียงรบกวน(ได้รับการรับรองคุณภาพจาก Discord)
  • Software: โปรแกรม Inzone Hub
  • Waranty: 1 ปี
  • วัสดุโครงสร้าง: พลาสติก, อะลูมิเนียม

ราคาปัจจุบัน: 2,990 บาท (คลิก) 


2. EPOS Game Zero

Epos Game Zero
Epos Game Zero

อีก 1 หูฟังน่าใช้จากแบรนด์ระดับ Top ของโลกอย่าง Sennheiser  นอกจากจะผลิตหูฟังเพื่อเพลง ดูหนังแล้ว ก็ยังผลิตหูฟังสำหรับเกมมิ่งเกียร์ด้วย โดยรุ่นนี้เป็นหูฟังแบบเปิด (Open Air) ทำให้มีซาวสเตจที่กว้าง สามาถแยกแยะทิศทาง ความใกล้-ไกลได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น สำหรับราคาในช่วงเปิดตัวอยู่ที่ 6,690 บาท

Spec EPOS Game Zero

  • RGB: ไม่มี
  • การเชื่อมต่อ: Aux 3.5 mm
  • ความยาวสายหูฟัง: 3 เมตร
  • Surround: ไม่ระบุ
  • อิมพีแดนซ์: 50 โอม
  • การตอบสนองความถี่หูฟัง: 15 hz – 28,000 Hz
  • วัสดุหุ้มก้านหูฟัง: หนังเทียม
  • น้ำหนัก(ไม่รวมสาย): 300 กรัม
  • Earpad Fabri: หนังเทียม
  • Earpad Foam: เมมโมรีโฟม
  • Mic: ถอดไม่ได้
  • การตอบสนองความถี่ไม่โครโฟน: 50 Hz- 16,000 Hz
  • ตัดเสียงรบกวน: มีระบบตัดเสียงรบกวน
  • Software: ไม่มี
  • Waranty: 2 ปี
  • วัสดุโครงสร้าง: อะลูมิเนียม โลหะ พลาสติก

ราคาปัจจุบัน: 2,890 บาท (คลิก)


3. Razer BlackShark V2

Razer Blackshark V2
Razer Blackshark V2

หูฟังน่าใช้จากแบรนด์ชื่อดังของเกมมิ่งเกียร์ มาพร้อมกับไดร์เวอร์เสียงขนาด 50 มิลิเมตร ระบบเสียงรอบทิศทาง THX Spatial Audio มี Software Razer Synaps รองรับ ไมค์โครโฟนสามารถถอดได้พร้อมระบบตัดเสียงรบกวน นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักที่เบาเพียง 262 กรัม ฟองน้ำแบบเมมโมรี่โฟม ช่วยให้การสวมใส่สบายศรีษะมากยิ่งขึ้น สำหรับราคาในช่วงเปิดตัวอยู่ที่ 3,590 บาท

Spec Razer BlackShark V2

  • RGB: ไม่มี
  • การเชื่อมต่อ: Aux 3.5 mm, USB Sound Card
  • ความยาวสายหูฟัง: 1.8 เมตร
  • ความยาวสายเองเกิล: 15 เซนติเมตร
  • Surround: THX Spatial Audio
  • ขนาด Drivers: 50 มิลลิเมตร
  • อิมพีแดนซ์: 32 โอม
  • การตอบสนองความถี่หูฟัง: 12 hz – 28,000 Hz
  • วัสดุหุ้มก้านหูฟัง: ผ้า
  • น้ำหนัก(ไม่รวมสาย): 262 กรัม
  • Earpad Fabri: ผ้า
  • Earpad Foam: เมมโมรีโฟม
  • Mic: ถอดได้
  • การตอบสนองความถี่ไม่โครโฟน: 10 Hz- 10,000 Hz
  • ตัดเสียงรบกวน: มีระบบตัดเสียงรบกวน
  • Software: Razer Synaps
  • Waranty: 2 ปี
  • วัสดุโครงสร้าง: อะลูมิเนียม, พลาสติก

ราคาปัจจุบัน: 2,990 บาท (คลิก)


4. Sennheiser GSP600

Sennheiser GSP600
Sennheiser GSP600

หูฟังเกมมิ่งเกียร์น่าใช้อีก 1 รุ่น จาก Sennheiser มีสเตจเสียงที่กว้างให้อรรถรสการรับฟังได้สมจริง ออกเสียงได้ครบ จะเสียงธรรมชาติ เสียงตัวละคร เสียงปืน คมชัดทุกย่านเสียง และจะใช้ได้ดียิ่งขึ้นเมื่อใช้คู่กับ Dac GSX300 หูฟังรุ่นนี้เป็นหูฟังแบบปิด ตัดเสียงภายนอกออกได้อย่างดีเนื่องจากเป็นวัสดุโฟมหูฟังเป็นหนังเทียมและภายในเป็นเมมโมรี่โฟม สำหรับราคาเปิดตัวอยู่ที่ 8,190 บาท

Spec Sennheiser GSP600

  • RGB: ไม่มี
  • การเชื่อมต่อ: Aux 3.5 mm
  • ความยาวสายหูฟัง: 2.5 เมตร
  • Surround: ไม่ระบุ
  • อิมพีแดนซ์: 28 โอม
  • การตอบสนองความถี่หูฟัง: 10 hz – 30,000 Hz
  • วัสดุหุ้มก้านหูฟัง: หนังเทียม
  • น้ำหนัก(ไม่รวมสาย): 395 กรัม
  • ฝาครอบหูฟัง: สามารถเปลี่ยนได้
  • Earpad Fabri: หนังเทียม & กำมะหยี่
  • Earpad Foam: เมมโมรีโฟม
  • Mic: ถอดไม่ได้
  • การตอบสนองความถี่ไม่โครโฟน: 10 Hz- 18,000 Hz
  • ตัดเสียงรบกวน: มีระบบตัดเสียงรบกวน
  • Software: ไม่มี
  • Waranty: 2 ปี
  • วัสดุโครงสร้าง: อะลูมิเนียม โลหะ พลาสติก

ราคาปัจจุบัน: 2,990 บาท (คลิก)


5. Hyper X Cloud 3

HyperX Cloud 3
HyperX Cloud 3

หูฟังน่าใช้ ที่จะกล่าวถึง รุ่นสุดท้ายเป็นของค่าย Hyper X ค่ายเกมมิ่งเกียร์ชื่อดัง หลังจากรุ่นในตำนานอย่าง Hyper X Cloud 2 ที่ถูกกล่าวถึงความคุ้มค่า คุ้มราคาจนขายดีถล่มทลาย มาวันนี้ทางค่าย Hyper X พึ่งเปิดตัวรุ่นใหม่ในรอบ 8 ปี คือ Hyper X Cloud 3 ที่อัพเกรดสเปคมาให้ดียิ่งขึ้น อัพเกรดสเปกเป็นไดร์เวอร์ขนาด 53 มิลลิเมตร ของแกรฟิน ช่วยให้ย่านเสียงคมชัดทุกรายละเอียด พร้อมทั้งรองรับ Software HyperX Ngenuity และระบบเสียง DTS:x ช่วยให้เราสามารถปรับ EQ ย่านเสียงด้วยตัวเอง หรือจะเลือกใช้โหมดการรับฟังที่เซตอัพมาให้แล้ว ช่วยให้เราเลือกใช้ได้ตามอรรถรส ใครมีส่วนลดเยอะๆได้หูฟังตัวนี้ราคาต่ำกว่า 3,000 บาทแน่นอน

Spec Hyper X Cloud 3

  • RGB: ไม่มี
  • การเชื่อมต่อ: Aux 3.5 mm, USB-A, USB-C
  • ความยาวสายหูฟัง: 1.2 เมตร
  • ความยาวสายดองเกิล: 1.3 เมตร
  • Surround: DTS:x
  • ขนาด Drivers: 53 มิลลิเมตร (ของแกนฟีน)
  • อิมพีแดนซ์: 64 โอม
  • การตอบสนองความถี่หูฟัง: 10 Hz – 21,000 Hz
  • วัสดุหุ้มก้านหูฟัง: หนังเทียม
  • น้ำหนัก(ไม่รวมสาย): 320 กรัม
  • ฝาครอบหูฟัง: สามารถเปลี่ยนได้
  • Earpad Fabri: หนังเทียม
  • Earpad Foam: เมมโมรีโฟม
  • Mic: ถอดได้
  • การตอบสนองความถี่ไม่โครโฟน: 50 Hz- 17,000 Hz
  • ตัดเสียงรบกวน: มีระบบตัดเสียงรบกวน
  • Software: HyperX Ngenunity
  • Waranty: 2 ปี
  • วัสดุโครงสร้าง: อะลูมิเนียม โลหะ พลาสติก

ราคาปัจจุบัน: 3,090 บาท (คลิก)

สรุปแล้วตัวไหนคุ้มที่สุด

ถ้าคุณเป็นคนเล่นเกมกับเพื่อน ทำงานเป็นทีมต้องสื่อสารบอกตำแหน่งบอกพิกัดให้เพื่อนทราบตลอดเวลาใช้ Sony Inzone H3 ถ้าเสียงธรรมดาไม่พอใจอยากใช้คู่กับ Soundcard เพื่อให้ได้เสียงเทพขั้นสุดต้อง Sennheiser GSP 600 แต่ถ้าไม่ชอบผ้ากำมะหยี่ต้องเลือกใช้คู่กับ Epos Game Zero เพราะเป็นหนังเทียม ถ้าอยากได้หูฟังน้ำหนักเบาไม่หนักหัว ถอดไมโครโฟนได้ไม่เกะกะต้อง Razer Blackshark V2 และถ้าอยากได้หูฟังน่าใช้รุ่นที่มีคุณสมบัติของรุ่นก่อนหน้านี้ทั้งหมด มาอยู่ในหูฟังตัวเดียวต้อง HyperX Cloud 3 ครบจบแน่นอน!


คีย์บอร์ดน่าใช้ปี 2023 มีรุ่นไหนบ้าง มาอ่านกันได้ที่: รวม 5 คีย์บอร์ดน่าใช้ งบไม่เกิน 1,500 บาท
ติดตามบทความสนุกๆเกี่ยวกับ Keyboard และเกมมิ่งเกียร์ดีๆที่: Freshz.com
ติดตามรีวิว Gadget และ Gaming Gear ดีๆได้ที่ Youtube : FreshZ
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img