รวมคำศัพท์ Magnetic Switch Keyboard ที่คุณต้องรู้!

คลังคำศัพท์คีย์บอร์ด HE

มีรุ่นใหม่ออกมาให้พรึ่บจนเรียกได้ว่า 2024 เป็นปีแห่ง HE Keyboard เลยก็ว่าได้ แต่หลายฟีเจอร์ก็นับว่าใหม่มาก บทความนี้จึงมารวบรวมคำศัพท์ Magnetic Switch Keyboard สำคัญ ๆ พร้อมอธิบายหลักการทำงานของแต่ละฟีเจอร์ ไม่ว่าจะ Actuation Point, Continuous Rapid Trigger, Snap Tap, Deadzone, DKS และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ละอย่างคืออะไรมาไขคำตอบไปพร้อมกัน

Hall Effect Keyboard

Hall Effect คือหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกค้นพบมาตั้งแต่ปี 1981 โดยเอ็ดวิน ฮอลล์ (Edwin Hall) พบว่าสามารถใช้กระแสไฟฟ้าและแม่เหล็กในการตรวจจับความเคลื่อนไหวของกลไกได้ สามารถประยุกต์ใช้วัดรอบเครื่องยนต์ วัดความเร็วของล้อ ฯลฯ ในวงการเกมมิ่งเกียร์ก็นำมาตรวจจับการขยับจอยสติ๊ก ช่วยให้การควบคุมแม่นยำขึ้น ทั้งยังสึกหรอยากเพราะไม่มีชิ้นส่วนสัมผัสกันแบบระบบเก่า แน่นอนว่าคีย์บอร์ด HE ก็นำนวัตกรรมนี้มาทำสวิตช์ด้วย จึงเรียกว่า Hall Effect Keyboard หรือ Magnetic Switch Keyboard นั่นเอง


Actuation point (ระยะ Active และ Reset)

Actuation point คือระยะที่สวิตช์จะเริ่มทำงาน (Active) และยุติการทำงาน (Reset) มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร เช่นเราต้องกดลงไป 2 mm เพื่อให้ปุ่มติดและต้องยกนิ้วให้พ้นระยะ 2 mm เดิมอีกครั้งเพื่อให้ปุ่มหยุด ซึ่งแมคคานิคอลคีย์บอร์ดจะมีค่า Actuation point ตายตัว แต่สำหรับคีย์บอร์ด Magnetic Switch จะสามารถคัสตอมค่านี้ได้อิสระ ส่วนใหญ่เลือกได้ตั้งแต่ 0.1-4.0 mm หากเล่นเกมต้องการการตอบสนองไวก็อาจตั้งไว้สัก 1 mm (ตั้งตื้นกว่านี้อาจควบคุมยาก) แต่ถ้าเน้นพิมพ์งานก็อาจตั้งเป็น 1.5-2.0 mm ก็จะเข้ามือกว่า และสามารถตั้งระยะ Active และ Reset เป็นคนละค่ากันได้ด้วย


Rapid Trigger

ซ้ายคีย์บอร์ดธรรมดา ขวาคีย์บอร์ด Rapid Trigger (ขอบคุณภาพประกอบจาก SteelSeries)

แม้ว่าการตั้ง Actuation point จะดูล้ำ แต่ยังมีสิ่งที่ล้ำกว่านั่นคือ Rapid Trigger ที่เข้ามาช่วยให้การควบคุมเกมละเอียดมากขึ้น จากเดิมที่ปุ่มจะ Active และ Reset ตามระยะตายตัวที่ตั้งเอาไว้ เปลี่ยนเป็นสามารถ Active และ Reset ได้ทุกระยะของสวิตช์เพียงแค่แตะเบา ๆ ปุ่มก็ติด ผ่อนเบา ๆ ปุ่มก็หยุดโดยไม่จำเป็นต้องยกนิ้วจนสุดอีกต่อไป ตั้งค่าได้ว่าต้องการกดลงไปกี่ mm เพื่อ Active และยกนิ้วกี่ mm เพื่อ Reset โดยไม่ต้องสนค่า Actuation point เดิมที่ตั้งไว้ (แต่ระยะ Active เดิมยังมีผลบางอย่าง จะอธิบายในหัวข้อถัดไป) ผลคือเราบังคับตัวละครในเกมได้แม่นยำขึ้น เปรียบเทียบให้เห็นภาพ เช่น คีย์บอร์ดเดิม ๆ เรากดปุ่ม 1 ทีเดินได้ 1 เมตร แต่ Rapid Trigger จะทำให้เราเดินทีละ 0.1 เมตรได้


Continuous Rapid Trigger

อย่างที่เกริ่นไปในหัวข้อก่อนว่าแม้จะเปิดใช้ Rapid Trigger แต่ระยะ Active เดิมยังคงส่งผลบางอย่าง นั่นก็คือ RT จะทำงานก็ต่อเมื่อเรากดลงไปเลยระยะ Active เดิมที่ตั้งไว้แล้วเท่านั้น เช่น สวิตช์มีระยะทั้งหมด (Total Travel) 4 mm แล้วเราตั้ง Active ไว้ที่ 1.5 mm ช่วงตั้งแต่ 0-1.5 mm จะกลายเป็นเหมือน Dead zone และ RT จะทำงานในช่วง 1.6-4.0 mm เท่านั้น แต่หากเปิดใช้งาน Continuous Rapid Trigger เมื่อเรากดปุ่มลงไประยะ Active จะยังทำงานในจังหวะกดครั้งแรก จากนั้นจะยกเลิกการทำงานชั่วคราว และ RT จะเปลี่ยนมาทำงานเต็มพิกัด 0.1-4.0 mm ไปจนกว่าเราจะปล่อยมือจนสุดอีกครั้ง ระยะ Active จึงจะกลับมามีผลอีกรอบ แบบนี้วนไปเรื่อย ๆ

สรุปลำดับการทำงาน Continuous RT

  1. กดปุ่ม ระยะ Active ทำงานที่ 1.5 mm
  2. RT เริ่มทำงานที่ 1.6-4.0 mm
  3. ระยะ Active ถูกยกเลิกชั่วคราว
  4. RT ขยายมาทำงานที่ 0.1-4.0 mm
  5. ปล่อยนิ้วจนสุด (0.0 mm)
  6. วนกลับไปขั้นตอนที่ 1

Deadzone

เนื่องจาก Rapid Trigger ตอบสนองไวมาก ๆ ทำให้บางทีแค่ทำของตกใส่โต๊ะหรือเผลอโยกเยกนิ้วโดยไม่ตั้งใจ ปุ่มก็อาจจะหยุดทำงานทั้งที่ยังไม่ได้ยกนิ้วได้ ทำให้บางคนเข้าใจว่าสวิตช์เอ๋อเผลอก่นด่าว่าคีย์บอร์ดห่วยทั้งที่จริง ๆ มันทำงานถูกต้องแล้ว เพื่อป้องกันปัญหาและคำอาฆาตที่อาจเกิดขึ้นแบรนด์จึงใส่ค่า Bottom Deadzone เข้ามาป้องกันการยกนิ้วโดยไม่ตั้งใจ เช่น Wooting 60HE จะอยู่ที่ราว ๆ 0.25 mm จากก้นสวิตช์ นั่นหมายถึงหากเราเผลอยกนิ้วไม่เกิน 0.25 mm ปุ่มจะยังทำงานอยู่นั่นเอง

คำศัพท์ Magnetic Switch Keyboard

Wooting 60HE จะล็อกค่า Bottom Deadzone ไว้ตายตัว แต่อีกหลายแบรนด์ เช่น MelGeek Made68 มีให้ปรับตั้งแต่ 0-0.7 mm ขณะที่ Fire68 จะปรับได้ตั้งแต่ 0-1.0 mm เลยทีเดียว นอกจากนี้บางรุ่นยังมี Press Dead zone ด้วย ซึ่งทำงานตรงกันข้ามเพื่อป้องกันการกดโดยไม่ตั้งใจแทน ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ไม่ต่างอะไรกับการตั้งระยะ Active และเปิด RT นั่นเอง แนะนำว่าไม่ควรปิดใช้งาน Bottom Deadzone เพราะเราเคยทดสอบแล้วว่ามันทำให้การควบคุมแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด


Super Key หรือ Advance Key

Super Key หรือ Advance Key เป็นคำที่มักใช้เรียกฟีเจอร์พิเศษของคีย์บอร์ด Magnetic Switch Keyboard ซึ่งบางฟีเจอร์จะค่อนข้างเฉพาะทางมาก ๆ ไม่ได้ใช้ในวงกว้าง

  • DKS (Dynamic Keystroke) คือฟีเจอร์ 1 ปุ่ม 4 คำสั่ง สามารถตั้งได้ว่าให้กดครึ่งหนึ่งเป็นคำสั่งหนึ่ง กดสุดเป็นอีกคำสั่งหนึ่ง ผ่อนครึ่งหนึ่งเป็นคำสั่งหนึ่ง และผ่อนจนสุดเป็นอีกคำสั่งหนึ่ง มักจะนำมาประยุกต์ใช้เป็นการกดครึ่งหนึ่งเพื่อเดิน กดจนสุดเพื่อวิ่ง
  • Mod Tap เมื่อเรากดปุ่มไว ๆ จะเป็นคำสั่งหนึ่ง กดค้างจะเป็นอีกคำสั่งหนึ่ง
  • Toggle Key (TGL) เมื่อกดปุ่มค้างแล้วปล่อยมือแล้วปุ่มจะกดซ้ำย้ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ จนกว่าเราจะกดปุ่มอีกทีเพื่อหยุด
  • Snap Tap ปกติแล้วเมื่อเรากดปุ่มทิศทางตรงข้ามกัน เช่น กด W เดินหน้าและกด S ถอยหลังพร้อมกันตัวละครในเกมจะหยุด แต่หากเปิดใช้งาน Snap Tap คีย์บอร์ดจะให้ความสำคัญกับปุ่มหลังสุดที่กด ทำให้แม้จะกด W แล้วกด S ตามทีหลังโดยไม่ปล่อยปุ่ม W ตัวละครจะไม่หยุดนิ่งแต่จะเดินถอยหลังแทน ฟีเจอร์นี้ช่วยให้สามารถทำ Jiggle peak กดซ้ายขวา ๆ รัว ๆ เพื่อหลอกล่อศัตรูได้อย่างรวดเร็วมาก ๆ ช่วยให้ได้เปรียบผู้เล่นอื่นอย่างเห็นได้ชัดจนบางเกม เช่น CS2 ถึงกับแบนฟีเจอร์นี้ไปเป็นที่เรียบร้อย

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก steelseries.com, akkogear.eu

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img