Table of Contents
จอ IPS VA และ TN คืออะไร
หากจะหาซื้อจอมอนิเตอร์คอมฯ สักตัว ส่วนใหญ่เราก็จะดูว่าจอใหญ่กี่นิ้ว ค่า Refresh rate เท่าไหร่ ความละเอียด Full HD, 2K หรือ 4K, 8K ใด ๆ แต่ข้อมูลสเปคที่หลายคนอาจจะไม่ให้ความสำคัญนักคือชนิดของพาแนลจอ (Panel) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตแผงหน้าจอที่แต่ละชนิดจะให้คุณภาพของภาพแตกต่างกัน อาทิ ความสดความเพี้ยนของสี มุมมองความแคบกว้าง แบ่งเป็น IPS, VA และ TN ถ้าบางคนศึกษามาหน่อยก็มักจะได้ยินคำแนะนำว่าให้ซื้อจอ IPS เพราะสีตรงที่สุด ว่าแต่ข้อมูลนี้จริงไหม พาแนลแต่ละอย่างต่างกันยังไง ข้อดี ข้อเสียมีอะไรบ้าง ถ้าจะเอามาทำกราฟิก, ดูหนัง หรือเล่นเกมล่ะ ควรซื้อจอแบบไหนดี
ทำความรู้จัก Refresh rate และ Response time
ก่อนจะเข้าเนื้อหา เราต้องเข้าใจศัพท์หน้าจออย่าง Refresh rate และ Response time กันก่อน ซึ่งทางเทคนิคแล้วภาพเคลื่อนไหวที่เราเห็นบนหน้าจอจะเกิดจากการนำภาพนิ่งที่แตกต่างกันเล็กน้อยมาฉายต่อกันไว ๆ จนเราเห็นว่ามันเคลื่อนไหว ใน 1 วินาทียิ่งมีจำนวนภาพเยอะแค่ไหนเราก็จะเห็นว่ามันขยับได้เนียนตามากขึ้น สิ่งนี้เรียกว่า Refresh rate มีหน่วยเป็นเฮิร์ต (Hz) เช่น 60 Hz จะหมายถึงมี 60 ภาพใน 1 วินาทีนั่นเอง
ส่วน Response time หมายถึงความเร็วในการเปลี่ยนเม็ดสีในแต่ละพิกเซล ยิ่งมีค่าต่ำภาพยิ่งลื่นไหล ไม่เบลอ ไม่มีภาพซ้อนเวลาวัตถุในจอเคลื่อนไหวเร็ว ๆ ปัจจุบันเกมมิ่งมอนิเตอร์โหด ๆ มีค่านี้ต่ำยิ่งกว่า 1 มิลลิวินาทีเสียอีก (ms)
1.) จอ TN เล่นเกมลื่นตาแตก
จอ TN (Twisted Nematic) นับเป็นเทคโนโลยีเก่าสุด ให้คุณภาพภาพต่ำกว่าพาแนลอื่นแทบทุกด้าน สีเพี้ยน ไม่ค่อยสดใส แถมมุมมองภาพก็แคบอยู่แถว ๆ 160 องศาเท่านั้น หากมองจากข้าง ๆ ภาพจะไม่ชัด แต่สิ่งที่โดดเด่นมากของจอประเภทนี้คือค่า Refresh rate ที่สูง และ Response Times ที่ต่ำ ดึงลงไปได้ถึงระดับต่ำกว่า 1ms เลยทีเดียว ทำให้เอาไปเล่นเกมที่ต้องการความฉับไวอย่างเกม FPS ได้ดีเยี่ยม สะบัดเมาส์ซ้ายขวาก็ยังคมกริบไม่เบลอ ซึ่งถ้าเทียบกับจอ IPS กับ VA จะมีข้อดีและข้อสังเกตดังนี้
ข้อดี & ข้อสังเกต
- มีค่า Refresh rate และ Response Times ที่ดี เล่นเกมไหลลื่นที่สุด
- ภาพคมชัด ไม่เบลอเมื่อวัตถุในจอเคลื่อนไหวเร็ว
- มุมมองภาพแคบ ถ้ามองจากข้าง ๆ จะเห็นเป็นภาพมืด ๆ
- ขอบเขตสีน้อย ให้สีเพี้ยน
- ราคาถูก
จอ TN เหมาะกับใคร
เหมาะกับจริงจังเกมเมอร์ที่ต้องการความแม่นยำมากที่สุด เช่น นักกีฬาอีสปอร์ต แต่จอจะให้สีที่เพี้ยน ฉะนั้น ไม่เหมาะกับใช้ทำงานกราฟิกหรือเอาไปใช้ดูหนังอย่างยิ่งเพราะจะทำให้งานพัง อรรถรสเสีย อย่างไรก็ดี สามารถนำมาใช้งานทั่วไปได้ อาทิ งานเอกสารตามออฟฟิศหรือโรงเรียน อีกทั้งยังมีราคาถูก
2.) จอ VA ให้สีจัดจ้าน ดูหนังสะใจ
จอ VA (Vertical Alignment) นับเป็นเป็ดแห่งวงการพาแนลที่ให้คุณภาพอยู่กึ่งกลางระหว่าง IPS กับ TN มีจุดเด่นตรงที่สามารถทำ Contrast ได้ดีที่สุด ซึ่งค่านี้หมายถึงระดับความต่างของระดับสีขาวที่ขาวที่สุดเทียบกับสีดำที่ดำมากที่สุด ซึ่งส่งผลให้จอชนิดนี้แสดงผลสีดำได้มืดสนิทเหมือนปิดไฟ ขาวคือขาวไม่ใช่ขาวเพราะใช้ไฟ Backlight อัดจนซีด โดยอีกจุดเด่นก็คือความจัดจ้านสดใสของเฉดสีที่ทำให้นั่งดูหนังจกป๊อปคอร์นได้อรรถรสสุด ๆ พาแนลประเภทนี้จึงมักเอาไปทำเป็นจอโทรทัศน์กันเต็มบ้านเต็มเมือง ใช้เป็นจอคอมฯ ก็ได้ทุกงานแบบครอบจักรวาลแต่อาจไปไม่สุดสักทาง โดยมีข้อดีและข้อสังเกตอีกหลายข้อ ดังนี้
ข้อดี & ข้อสังเกต
- สีสันสดใส ให้มิติสีได้ดี
- มุมมองภาพดีกว่า TN และใกล้เคียงหรือเท่ากับ IPS
- มี Refresh rate และ Response Times ที่เหนือกว่า IPS แต่เป็นรอง TN
- ราคาระดับกลาง
จอ VA เหมาะกับใคร
เหมาะสำหรับสายบันเทิงที่ชอบความจัดจ้านของสีสัน เอาไปนอนดูหนัง นั่งดูสารคดีสัตว์โลกอิ่มความสุขจนล้นออกปากแน่นอน หรือถ้าเป็นเกมเมอร์ที่ชอบความคัลเลอร์ฟูลก็สามารถใช้เล่นเกมได้แต่เคลื่อนไหวจอเร็ว ๆ ภาพจะมีอาการเบลอ ไม่คมชัดเหมือนจอ TN
3.) จอ IPS สีตรง โดนใจสายกราฟิก
จอ IPS (In-Plane Switching) เป็นเทคโนโลยีพาแนลจอ LCD ยุคใหม่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน เรียกได้ว่าถ้าเลือกไม่ถูกเอา IPS ไว้ก่อน หากไปถามหาเหตุผลเชื่อว่าหลายคนก็คงบอกว่าเพราะสีมันตรง ซึ่งก็เป็นความจริง เพราะจอประเภทนี้ให้สีที่ตรงและสมจริง ฉะนั้น คนที่ทำงานด้านกราฟิกซึ่งห้ามตัดงานออกมาสีเพี้ยนจึงเหมาะกับจอชนิดนี้อย่างหาที่สุดไม่ได้ แต่จอ IPS ก็มีข้อดีรวมถึงข้อสังเกตอื่น ๆ อีก ดังนี้
ข้อดี & ข้อสังเกต
- สีตรง สมจริงที่สุดในบรรดาจอทั้ง 3 แบบ
- มุมมองภาพกว้างถึง 178 องศา ไม่ว่ายืนมอง ก้มมอง หรือมองจากด้านข้างภาพก็ไม่ผิดเพี้ยน
- ค่า Refresh rate และ Response Times ค่อนข้างดี แต่ก็ยังแพ้ให้กับจอ TN อยู่ดี จะสังเกตได้ว่าหากวัตถุในภาพขยับเร็ว ๆ เช่น ฉากขับรถในเกมหรือหนังภาพมักจะออกมาเบลอ
- แม้จะมีสีที่ตรงที่สุด แต่ยังสู้เรื่อง Contrast สีกับจอ VA ไม่ได้
- ราคาสูงที่สุด
จอ IPS เหมาะกับใคร
จอประเภทนี้เหมาะกับคนทำงานกราฟิกหรือตัดต่อวิดีโอที่ต้องการสีที่เที่ยงตรง แต่ก็สามารถใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกมได้ โดยเฉพาะเกมเมอร์ที่ชอบภาพกราฟิกสมจริงมากกว่าจะสนใจความไหลลื่นของภาพ
4.) จอ IPS ยุคใหม่ ไปสุดทุกด้าน!
แม้จอ IPS ทั่วไปจะมีข้อด้อยด้าน Refresh rate และ Response Times ที่ยังสู้จอ TN ไม่ได้ แต่ปัจจุบันมีจอ IPS ยุคใหม่ที่ได้รับการอัปเกรดไปอีกขั้น อัดฉีดสเปคมาแบบเต็มพิกัดและแปะป้าย Gaming monitor เข้าไป ทำ Refresh rate สูงระดับ 240 หรือ 360Hz และ Response Times ที่ต่ำถึง 1 ms หรือไปขั้นต่ำกว่านั้นก็ยังมี เรียกว่าหักล้างทุกทฤษฎีพาแนลจอที่มีกันไปเลย เช่น ACER PREDATOR X25 ที่มาพร้อมจอ 360Hz, 0.3ms สเปคโหดเหมือนโกรธพาแนล TN อย่างไรก็ดี เมื่ออัปเกรดสเปคราคาก็ขยับไปอีก (หลาย) สเต็ปเช่นกัน ฉะนั้น พาแนลแบบเดิม ๆ ทั้ง จอ IPS VA และ TN ก็ยังมีที่ยืน เป็นอีกทางเลือกของคนที่งบจำกัดและอาจต้องการใช้งานด้านใดด้านหนึ่งโดยเฉพาะจริง ๆ ก็จะประหยัดเงินไปได้เยอะ
สรุปสั้น ๆ จอแบบไหนเหมาะกับใครบ้าง
- TN เหมาะกับเกมเมอร์สายเกม FPS ที่ต้องการภาพคมกริบ ไม่เบลอเมื่อวัตถุในจอเคลื่อนไหวเร็ว แต่สีจะค่อนข้างเพี้ยน และมุมมองภาพจะแคบกว่าจอแบบอื่น มองด้านข้างภาพจะมืด ราคาจะถูกที่สุด
- VA เหมาะกับสายบันเทิงที่ต้องการสีสันจัดจ้าน ดูหนังสนุก มุมมองภาพกว้าง ราคาระดับกลาง ๆ
- IPS เหมาะกับสายอาชีพกราฟิกที่ต้องการสีตรง ไม่เพี้ยน มุมมองภาพกว้าง แต่ราคาก็จะสูงที่สุด
อย่างไรก็ดี ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นสเปคของจอ TN, VA และ IPS โดยทั่วไปเท่านั้น เพราะจอแต่ละแบบก็มีรุ่นที่ได้รับอัปเกรดสเปค โดยเฉพาะด้าน Refresh rate และ Response Time ให้สูงขึ้นชนิดที่พอจะเอามาชนกันได้ แต่หากเอาพาแนลแต่ละตัวที่ค่า 2 อย่างนี้เท่ากันมาเทียบกันชัด ๆ ก็ยังพอเห็นความแตกต่างของภาพอยู่ เช่น จอ IPS กับ TN ที่ Refresh rate เท่ากัน จะเห็นได้ว่าจอ TN คมชัดกว่าเมื่อภาพขยับเร็ว ๆ อยู่ดี ดั่งรูปตัวอย่าง นอกจากนี้ ราคาอาจจะไม่ได้เรียงจากถูกไปแพงตามทฤษฎีเพราะยังมีเรื่องของแบรนด์ดิ้ง ค่าการตลาดต่าง ๆ ที่แบรนด์ใส่เข้ามา ทำให้บางครั้งจอ TN อาจจะราคาสูง หรือ IPS ราคาถูกกว่าที่คาดก็มีให้เห็นเช่นกัน
ขอบคุณภาพประกอบจาก Samsung, Zowie และ BenQ