มือใหม่! อยากเข้าวงการ Sim Racing เลือกซื้อยังไง

ช่วงนี้กระแส F1 กำลังมาแรง! หนัง Gran Turismo ก็ตกคนเข้าวงการมาไม่น้อย ทำให้รู้ว่านักแข่งยุคนี้ นอกจากจะขับบนสนามแล้วเขายังซ้อมผ่าน Sim Racing อีกด้วย! คือมันสมจริงเบอร์นั้นเลย! มือใหม่หลายจึงคนอยากลองซิ่งดูบ้างแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง เดี๋ยวมาสรุปให้เบื้องต้น “มือใหม่! อยากเข้าวงการ Sim Racing เลือกซื้อยังไง

เลือกเกม & แพลตฟอร์ม

ขั้นตอนแรกคือเลือกเกมและแพลตฟอร์มที่จะเล่นก่อน

ประเภทเกม Sim Racing

1. Arcade เกมแนวนี้เน้นบันเทิง แข่งเอามัน ไม่สนฟิสิกส์ความสมจริง เช่น Burnout Paradise ขับชนกันระเบิดรถแหลก Need for Speed ไนตรัสไฟพุ่ง Forza Horizon หรือสายชิลขับรถบรรทุกส่งของอย่าง Euro Truck Simulator ก็จัดอยู่ในแนวนี้
2. Simcade กึ่ง Arcade กึ่ง Simulation ฟิสิกส์สมจริงในระดับหนึ่ง เริ่มต้องเรียนรู้กติกาในการแข่ง การควบคุมรถ การใช้เกียร์ การปรับแต่งเครื่องยนต์นิด ๆ หน่อย ๆ แต่มีระบบช่วยค่อนข้างเยอะทำให้เล่นง่าย เช่น Gran Turismo, F1, Dirt
3. Simulation ฟิสิกส์สมจริงมาก เป็นเกมที่นักแข่งใช้ซ้อม ที่บอกกันว่า Sim Racing สมจริงระดับ 90-95% เนี่ยจะหมายถึงเกมในกลุ่มนี้เช่น Assetto Corsa, iRacing เกมนี้ถือเป็นจุดสูงสุดของวงการ แต่ก็เป็นเกมที่ใช้งบเยอะมากเพราะต้องจ่ายรายเดือน รวมถึงต้องจ่ายเพื่อปลดล็อกสนาม ซื้อรถใหม่ แต่ด้วยความที่เสียเงินเยอะก็ทำให้คอมมูมีความจริงจังมาก เคารพกติกามารยาทในการแข่งสูงกว่าเกมอื่น ๆ

แพลตฟอร์ม

• พวงมาลัย PS5 → เล่นได้กับ PS5, PC
• พวงมาลัย PC → ถูกกว่า แต่เล่นบน PS5 ไม่ได้

1. PlayStation (PS4, PS5) ข้อดีคือมีเกม Gran Turismo เหมาะกับมือใหม่ที่สุด มีระบบสอนละเอียด ควรเบรกจังหวะไหน เข้าโค้งยังไง ใครงบน้อยจะหา PS4 มือสองมาเสียบเล่น GT7 ก็ยังได้ แต่ข้อเสียคือการเล่นออนไลน์ต้องสมัคร PlayStation Plus รายเดือน และราคาจอยพวงมาลัยในสเปกเดียวกันมักจะแพงกว่ารุ่นที่รองรับแค่ PC อย่างเดียว อย่างไรก็ตาม พวง PS ทุกตัวจะรองรับ PC ด้วย ทำให้ถ้าจะขยับขยายไปเล่นฝั่ง PC ในอนาคตก็ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์ใหม่
2. PC ข้อเสียเดียวเลยคือไม่มี Gran Turismo เล่นกับ PS ไม่ได้ แต่ข้อดีคือราคาเข้าถึงง่ายกว่า มีเกมหลากหลายกว่า บางเกมอาจจะมีทั้งบน PS และ PC เช่น Assetto Corsa แต่จะนิยมเล่นบน PC เพราะเกมนี้เบสมันจะไม่ได้มีอะไรมาก เน้นโหลดม็อดเพิ่มรถเพิ่มสนามแข่ง ซึ่งบน PS ลงม็อดไม่ได้ทำให้คนเล่นน้อย นอกจากนี้ สาย PC ยังมีรุ่นจอยพวงมาลัยให้เลือกเยอะ อุปกรณ์เสริมแยะ เอาของยี่ห้อนั้นมาติดตั้งกับยี่ห้อนี้ได้ ใครที่เน้นจริงจังมาก ๆ คัสตอมได้เยอะ ฝั่ง PC จะตอบโจทย์กว่า

สรุปสั้น ๆ ถ้าอยากเล่น Gran Turismo ไป PS4, PS5 ส่วนเกม Arcade กับ Simcade เนี่ยจะเล่นบนแพลตฟอร์มไหนก็ได้แล้วแต่เพื่อน ๆ สะดวก แต่ถ้าเน้นจริงจังไปสาย Simulation เต็มตัว ฝั่ง PC จะตอบโจทย์มากที่สุด

ประเภท Wheel Base (ฐานพวงมาลัย)

ตัวฐานพวงมาลัยหรือ Wheel Base คือหัวใจของความสมจริง พวกระบบฟิสิกส์ แรงสะเทือนตอนเข้าโค้ง พวงมาลัยตีกลับตอนรถเสียหลัก หรือที่เรียกว่า Force Feedback (FBB) เนี่ย จะขึ้นอยู่กับสิ่งนี้เป็นหลัก แต่จะรุ่นจะระบุชัดเจนว่ารองรับแพลตฟอร์มไหนบ้าง มีแรงบิดเท่าไหร่

1. ระบบเฟือง (Gear Drive) ข้อดีคือราคาถูก พอขับสนุกแต่จะไม่ค่อยสมจริง เสียงดังและฟีลลิ่ง FBB จะมีความกึกกัก เหมาะกับคนงบน้อย รุ่นที่คนใช้เยอะก็จะเป็น Logitech G29 งบหมื่นเดียวจบ รองรับทั้ง PC และ PS
2. สายพาน (Belt Drive) เป็นระบบที่ถูกอัปเกรดขึ้นมา FBB สมูทขึ้น เสียงเงียบลง กำลังเครื่องสูงขึ้น แต่รายละเอียด FFB บางอย่างอาจไม่ค่อยชัดเพราะถูกสายพานซับแรงเอาไว้บางส่วน รุ่นเริ่มต้นที่นิยมจะเป็น Thrustmaster T300RS GT งบหมื่นกลาง ๆ รองรับทั้ง PC และ PS เช่นกัน
3. Direct Drive (DD) เพลาพวงมาลัยต่อตรงกับมอเตอร์ เป็นระบบที่สมจริงที่สุดในปัจจุบัน ถ้าไม่ได้งบจำกัดจริง ๆ ก็อยากแนะนำให้ข้ามมา Direct Drive เลย เพราะฟีลลิ่งจะดีกว่า 2 ระบบก่อนหน้าอย่างชัดเจน โดยรุ่นเริ่มต้นที่น่าสนใจ สาย PS แนะนำ Thrustmaster T598 งบสองหมื่นกลาง ๆ ส่วนสาย PC เพียว ๆ ไป MOZA R5 น่าจะคุ้มสุดในงบไม่เกินหมื่นหก

แรงบิด (Nm) คืออะไร

แรงบิดคือค่าที่บอกว่าพวงมาลัยรุ่นนั้น ๆ มีกำลังในการหมุนสูงแค่ไหน มีหน่วยเป็น Nm (นิวตันเมตร) ยิ่งแรงบิดสูง ก็ยิ่งให้ความรู้สึกสมจริงมากกว่า ระบบเฟืองกับสายพานมักจะมีแรงบิดอยู่แถว ๆ 2 – 3 Nm แต่หากอยากเริ่มต้นด้วย Direct Drive แนะนำ 5 Nm จะเป็นค่าที่เหมาะกับมือใหม่มากที่สุด เนื่องจากได้ทั้งความสมจริงทั้งยังปลอดภัยไม่กระชากแรงถึงขั้นทำให้เพื่อน ๆ บาดเจ็บ หากเซียนแล้วอนาคตค่อยอัปเกรดไปเป็น 8 – 15 Nm แรง FBB ก็จะใกล้เคียงรถแข่ง GT จริง ๆ บางรุ่นมีขายแยก Boost Kit อัปเกรดจาก 5 Nm ไปเป็น 8 Nm ได้แบบไม่ต้องซื้อ Wheel Base ใหม่ด้วย ส่วนระดับมืออาชีพเขาซ้อมกันที่ระดับ 20 – 32 Nm พวงมาลัยจะหนักมาก แรงกระชากสูงมากจนคนทั่วไปเล่นไม่ได้เลย

พวงมาลัย

เพื่อความง่าย มือใหม่แนะนำให้ซื้อแบบบันเดิ้ลที่ขายพร้อม Wheel Base ไปเลย จะได้ไม่ปวดหัวกับการเลือก แต่ถ้าจะให้ดีเลือก Wheel Base รุ่นที่รองรับ Quick Release จะได้ถอดเปลี่ยนพวงมาลัยง่าย แต่ถ้าใช้ Wheel Base ของยี่ห้อไหนก็ต้องใช้พวงมาลัยของยี่ห้อนั้น ไม่สามารถข้ามแบรนด์ได้

1. พวงมาลัยทรงกลม — หากเน้นอเนกประสงค์ใช้เป็นพวงหลักแนะนำเป็นทรงกลม เพราะขับง่ายคล้ายรถบ้านทั่วไป ขับรถ GT แข่งเซอร์กิตได้สบาย หรือถ้าเน้นคอนโทรลถนัดขึ้น ไม่เกะกะขาตอนเข้าไปนั่งขับจะเลือกเป็นพวงมาลัยท้ายตัด (D-Shape) ก็ได้ โดยพวงมาลัยประเภทนี้มักมีเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่แถว ๆ 30 – 33 cm
2. พวงมาลัย F1 — เป็นสไตล์สี่เหลี่ยมผืนผ้า เหมาะกับรถแข่งตระกูล Formula ขนาดจะค่อนข้างเล็กเส้นผ่านศูนย์กลาง 26 – 28 cm ทำให้บังคับเลี้ยวในทางโค้งแคบ ๆ หักพวงเปลี่ยนทิศทางกะทันหันได้รวดเร็ว
3. พวงมาลัย Rally / Drift — การแข่ง Rally นอกสนาม ไม่ว่าจะบนทางด่วน ช่องทางธรรมชาติเป็นหลุมเป็นบ่อ หรือการ Drift จะใช้พวงมาลัยคล้ายกันคือทรงกลมไม่ก็วงรีนิด ๆ แต่จะมีเส้นผ่านศูนย์กลางกว้างกว่าพวง GT โดยจะอยู่ที่ 32 – 35 cm เนื่องจากสภาพถนนค่อนข้างทรหด ต้องหมุนพวงมาลัยเยอะ พวงกว้าง ๆ จะช่วยให้ควบคุมได้ละเอียดขึ้น การตีกลับของพวงมาลัยตอนรถเสียอาการจะไม่แรงมากทำให้คอนโทรลได้ง่ายขึ้น และยังมีพื้นที่สัมผัสเยอะเวลาต้องหมุนพวงไว ๆ มือก็จะไม่พันกัน

แป้นเหยียบ

บางคนก็อาจจะสงสัยว่าแล้ว Sim Racing เนี่ยต้องซื้อแบบ 2 หรือ 3 แป้นดี ก็จะขึ้นอยู่กับประเภทรถที่ขับกับแนวเกมที่เล่น ถ้าเน้นขับทำเวลา แข่ง F1, GT อะไรพวกนี้ใช้ 2 แป้นก็เพียงพอ แต่ถ้าเน้นขับ Rally / Drift มี 3 แป้นก็จะตอบโจทย์กว่า เพราะว่าเป็นการขับที่ต้องใช้เทคนิคเยอะ

นอกจากจำนวนแป้นแล้ว สิ่งที่ต้องดูก็คือ “ระบบเซนเซอร์ของแป้นเหยียบ” ซึ่งจะเกี่ยวกับความสมจริง แบบพื้นฐานที่สุดก็จะเป็น “เซนเซอร์วัดระยะการเหยียบ” Potentiometer กับ Hall Effect สองแบบนี้จะคล้ายกัน แต่ Hall Effect จะทนทานกว่า แม่นยำกว่า เซนเซอร์ไม่เพี้ยนตอนฝุ่นเกาะ มือใหม่จะเริ่มจากแบบไหนใน 2 ตัวนี้ก็ได้

และถ้าหากอยากอัปเกรดในอนาคต ก็แนะนำเป็นเซนเซอร์ Load Cell จะฟีลลิ่งคล้ายรถจริงมากขึ้น เพราะใช้การวัดแรงเหยียบแทนการวัดระยะแบบเดิม ทำให้เราได้ฝึก Muscle Memory ในการขับขี่ด้วย แต่ถ้าหากต้องการความสมจริงสูงสุดก็จะเป็นระบบ Hydraulic ที่จะเหมือนรถจริงมาก ๆ มีการเติมน้ำมันลงไปในกระปุกไฮดรอลิกจริง ๆ แต่ก็มีข้อเสียคือน้ำมันมันรั่วซึมได้ ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และราคาก็ค่อนข้างสูงมาก

อุปกรณ์เสริม

หากต้องการความสมจริงเพิ่ม Sim Racing หลาย ๆ รุ่นก็จะมีอุปกรณ์เสริมให้ติดตั้ง เช่น เกียร์, เบรกมือ, ระบบสะเทือนช่วงล่าง ButtKicker หรือล้ำ ๆ เลยก็เป็นระบบ Motion มีไฮดรอลิกโยกทั้ง Cockpit ตามการสะเทือนของรถ มีระบบสั่นแป้นเหยียบ มีระบบ Belt Tension ดึงเข็มขัดนิรภัยตามแรง g และอื่น ๆ อีกเพียบ สามารถเลือกติดตั้งได้ตามงบประมาณที่มีได้เลย

การติดตั้งอุปกรณ์ Sim Racing

1. Clamp หนีบโต๊ะ จะเหมาะกับ Wheel Base ที่แรงบิดไม่สูงอย่างระบบเฟืองหรือสายพาน ไม่แนะนำกับระบบ Direct Drive เพราะกำลังเครื่องสูงอาจจะทำโต๊ะเสียหายได้ แต่ถ้าจะเล่นจริง ๆ ก็ควรปรับ FBB ให้ต่ำลงเพื่อความปลอดภัย
2. Half Cockpit โครงโลหะแบบครึ่งเดียว ยึด Wheel Base กับแป้นเหยียบไว้กับฐาน ควรเป็นมาตรฐานเริ่มต้นของพวง Direct Drive เพราะจะได้ความมั่นคง รองรับแรงบิดสูง ๆ ได้ รวมถึงใครจะขยับมาใช้แป้นเหยียบ Load Cell ก็จำเป็นต้องมี Cockpit เพราะแรงต้านจะสูงกว่าแป้นเดิม ๆ มาก ไม่สามารถวางแป้นเหยียบกับพื้นได้
3. Full Cockpit โครงโลหะแบบเต็ม มีเบาะนั่ง จะมั่นคงที่สุด ได้อรรถรสที่สุดเหมือนเรานั่งอยู่ในรถจริง ๆ มีทั้งทรงรถ GT และ F1 กึ่งนอนขับให้เลือก ก่อนซื้ออย่าลืมดูด้วยว่า Cockpit รุ่นที่เพื่อน ๆ ดูอยู่รองรับแรงบิดได้สูงสุดเท่าไหร่ ใช้กับ Wheel Base ของเราได้ไหม ปรับองศาให้เข้ากับสรีระเราได้มากแค่ไหน สำหรับพื้นที่ติดตั้ง Cockpit ไม่ว่าจะ Half หรือ Full Cockpit แนะนำให้เผื่อที่ว่างในห้องไว้อย่างน้อยกว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร

แนะนำชุด Sim Racing สำหรับมือใหม่